เหรียญปั้มเก่าก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ - เหรียญหลวงปู่ทิม วัดนวลนรดิศ รุ่นแรก ปี ๒๔๗๓

.................................

..เหรียญปั้มเก่าก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ - เหรียญหลวงปู่ทิม วัดนวลนรดิศ รุ่นแรก ปี ๒๔๗๓ (******)

 ......หลวงปู่ทิม รตนโชโต เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดนวลนรดิศ (วัดมะกอกใน) เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ครองวัดระหว่างปีพ.ศ.๒๓๘๑-๒๔๖๙ ท่านเคยเป็นอดีตเจ้าอาวาส รูปที่ ๘ ของวัดประยุรวงศาวาส (วัดรั้วเหล็ก) เขตธนบุรี กรุงเทพฯ หลวงปู่ทิม ชาติภูมิท่านเป็นชาวบางบำหรุ ธนบุรี เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ ก.ค. ๒๓๘๑ ตรงกับแรม ๘ ค่ำ เดือน ๘ ปีจอนักษัตร เคยฝากตัวเป็นทนายหรือผู้รับใช้อยู่กับพระยาสุริยศักดิ์มนตรี (แสง ชูโต) แล้วมาอุปสมบทที่วัดประยุรวงศาวาส มีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (จี่) เจ้าอาวาสรูปที่ ๓ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านเคยศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักอาจารย์อ่อน และเป็นศิษย์ของพระอาจารย์แก้วด้วย ต่อมาท่านได้อาพาธ จึงลาสิกขาไปรักษาตัวแล้วกลับมาอุปสมบทใหม่ มีพระธรรมภาณพิลาศ (ผ่อง) เจ้าอาวาสรูปที่ 5 เป็นพระอุปัชฌาย์ ในช่วงอุปสมบทครั้งแรก ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูใบฎีกา และเลื่อนเป็น "พระครูสังฆสิทธิกร" ฐานานุกรมในสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (จี่) หลังจากที่ได้กลับมาอุปสมบทเป็นครั้งที่ 2 ท่านได้เป็นผู้ดูแลโรงเรียนหนังสือไทย และโรงเรียนบาลีที่เจ้าพระยาภาสกรวงศ์สร้างขึ้น

...ในปีขาล พ.ศ.๒๔๓๒ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรที่ "พระครูสังฆวิสุทธิคุณ" แล้วได้ย้ายจากวัดประยุรวงศาวาสไปเป็นเจ้าอาวาสวัดนวลนรดิศ ซึ่งท่านผู้หญิงนวล (เจ้าคุณพระราชพันธุ์) และท่านดิศ บุนนาค (สมเด็จ เจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์) ได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดนวลนรดิศ" เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ท่านผู้หญิงนวลและท่านดิศ บุนนาค

...เมื่อพ.ศ.๒๔๓๖ ได้ย้ายกลับมาเป็น เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น "พระสาสนานุรักษ์" เมื่อวันที่ ๑๙ พ.ค. ๒๔๓๖

...เมื่อพ.ศ.๒๔๓๙ ในช่วงที่พระสาสนานุรักษ์ (ทิม) เป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสอยู่นั้น กรรมการผู้จัดการแบ่งทรัพย์มรดกของท่านผู้หญิงพรรณ์ คือ เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ สร้างโรงเรียน ๒ หลัง วางซุ้มประตูวัดไว้ระหว่างกลางสำหรับเชื่อมโรงเรียนทั้งสองหลังเข้าด้วยกัน โดยตั้งอยู่ริมกำแพงหน้าวัดด้านแม่น้ำเจ้าพระยา ให้ชื่อว่า "พรรณาคาร ร.ศ.๑๑๕" พร้อมกันนั้นได้สร้างเมรุด้านหน้าภูเขาไว้เป็นที่เผาศพท่านผู้หญิงพรรณ์และอุทิศไว้เป็นที่เผาศพสำหรับประชาชนทั่วไป เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดีสร้างพระเจดีย์หลังพระอุโบสถองค์หนึ่ง สูงสามวาเศษ แล้วสร้างรูปพระอาจารย์แก้ว (ซึ่งเรียกกันว่าท่านขรัวแก้ว) ผู้เป็นอาจารย์๓ ประดิษฐานไว้ในนั้น

...พระสาสนานุรักษ์(ทิม)  เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดประยุรวงศาวาสได้ไม่เต็มที่นัก เพราะต้องเดินทางไปดูแลวัดนวลนรดิศซึ่งว่างเจ้าอาวาสอีกด้วย ในช่วงที่ไปพำนักอยู่ที่วัดนวลนรดิศนั้น ท่านได้มอบหมายให้พระครูสาราณียคุณ (บุญ) เป็นผู้ปกครองดูแลวัดประยูรวงศาวาสแทน เมื่อพระธรรมเจดีย์ (แก้ว) ได้ย้ายจากวัดชัยพฤกษมาลา ตลิ่งชัน มาเป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส ในปีพ.ศ.๒๔๔๓ พระสาสนานุรักษ์ (ทิม) จึงพ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส และไปเป็นเจ้าอาวาสวัดนวลนรดิศเพียงตำแหน่งเดียวตราบจนถึงกาลมรณภาพ เมื่อปีพ.ศ.๒๔๖๙ ที่วัดนวลนรดิศ สิริอายุ ๘๘ ปี

...ต่อมาในปีพ.ศ.๒๔๗๓ ได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพที่วัดนวลนรดิศ พร้อมกับจัดสร้างเหรียญที่ระลึก เนื้อเงินกรรมการ เนื้อทองแดงกลั่ยทองกรรมการ และ ทองแดงธรรมดา ซึ่งกล่าวกันว่า เหรียญนี้หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง นนทบุรี สหธรรมิกของหลวงปู่ทิมซึ่งย้ายมาจากวัดประยุรวงศาวาสพร้อมกัน และมาจำพรรษาอยู่ที่วัดนวลนรดิศหลายปี ได้ปลุกเสกร่วม กับหลวงพ่อแช่ม ธัมมานันโท (อดีตเจ้าอาวาสวัดนวลฯ รูปต่อมา) ซึ่งเหรียญนี้สร้างจำนวนน้อย จึงหายาก และมีค่านิยมสูง ที่สำคัญคนที่พบเห็นมักจะไม่ทราบว่าเป็นเหรียญของท่าน เนื่องจากไม่มีการระบุชื่อของท่านและวัด สำหรับอัฐิของหลวงปู่ทิมได้บรรจุไว้ ณ พระสถูปเจดีย์หลังพระวิหาร โดยปัจจุบันได้มีการสร้างศาลาจตุรมุขประดิษฐานรูปหล่อของหลวงปู่ทิม และหลวงพ่อแช่ม ไว้ให้ศิษยานุศิษย์ได้กราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล

...ราคา :: เท่าที่พบมีราคา ๒๕๐๐๐ บาท - ๕๕๐๐๐ บาท

                     ( เหรียญหลวงปู่ทิม วัดนวลนรดิศ รุ่นแรก ปี ๒๔๗๓  เนื้อทองแดง )

  
               
                           ( เหรียญหลวงปู่ทิม วัดนวลนรดิศ รุ่นแรก ปี ๒๔๗๓  เนื้อเงิน )

.....................................................................................................................................

ขอบคุณข้อมูลจาก ...http://recycleluck.blogspot.com/2015/05/2473.html

                         ...http://www.thaprachan.com/show_pra.php?id=972234

ขอบคุณภาพจาก   ...https://www.facebook.com/teewatsai222/posts/505824289614053

.....................................................................................................................................

เหรียญปั้มเก่าก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ - เหรียญหลวงพ่อหิน วัดกรุณา จ.ชัยนาท ปี ๒๔๗๙

..........................................

..เหรียญปั้มก่อนปี ๒๕๐๐ - เหรียญหลวงพ่อหิน  วัดกรุณา  จ.ชัยนาท ปี ๒๔๗๙(****)

  

  ..เหรียญปั้มหลวงพ่อหิน วัดเขื่อนกรุณา จ.ชัยนาท เป็นเหรียญพระพุทธที่อายุเก่าแก่เหรียญหนึ่งของจังหวัด 

  ..เดิมที วัดกรุณาเป็นเพียง สำนักสงฆ์เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ที่ ต.สวนลำไย อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ครั้นเมื่อ นายเล็ก บุญเย็น ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ และได้รับฉายาว่า "พุทธวณโณ" ต่อมาได้เป็นอธิการปกครองสำนักสงฆ์แห่งนี้ ซึ่งได้เปลี่ยนจากสำนักสงฆ์ เป็น วัดกรุณา อธิการเล็กเป็นผู้ที่ทรงคุณธรรม เป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวบ้านมาก  ต่อมาชาวบ้านได้ร่วมกันขอคำปรึกษาที่จะสร้างพระอุโบสถ ครั้นเมื่อพระอุโบสถใกล้จะเสร็จ อธิการเล็กท่านก็นึกที่จะหาพระประธานมาประดิษฐาน ท่านก็นึกขึ้นได้ว่า ที่โคกวัดร้างในย่านนั้นที่ชื่อ วัดแฝก มีพระประธานองค์ใหญ่ตั้งอยู่ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหินทราย แต่ถูกปกคลุมด้วยสุมทุมพุ่มไม้รกมากๆ อธิการเล็กจึงเห็นว่าน่าจะทำพิธีอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถ วัดกรุณา ชาวบ้านต่างก็เห็นดีด้วย จึงได้ช่วยกันถางป่าและทำพิธีอัญเชิญหลวงพ่อหินใหญ่ มาประดิษฐานยังวัดกรุณาในเดือนสี่ ปี ๒๔๗๙
  ...ก่อนวันที่จะอัญเชิญหลวงพ่อหินใหญ่ลงมานั้น มัคทายกผู้ใหญ่ท่านนึงได้ฝันว่า "การที่จะอัญเชิญหลวงพ่อหินใหญ่นั้น เบื้องต้นเชือกจะต้องขาดหนนึงก่อน จึงจะอัญเชิญลงมาได้"  และก็เป็นจริงตามฝัน
รุ่งขึ้นได้มีพิธีอัญเชิญ โดยมีชาวบ้านกว่าร้อยคนมาร่วมกัน ขณะทำการเคลื่อนอยู่นั้นได้เกิดฟ้าคะนองฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การเคลื่อนย้ายยากลำบากมาก เชือกขนาดใหญ่ที่ใช้ลำเลียงถึงกับขาดสะบั้น จนต้องทำการเปลี่ยนเชือกเส้นใหญ่ขึ้น และใช้เวลาถึงสามวันกว่าจะสำเร็จ และตลอดระยะเวลาสามวันนั้น ท้องฟ้ามืดคลื้มตลอดทั้งสามวันเลยทีเดียว
  ...แต่ที่น่าอัศจรรย์คือ เมื่อหลวงพ่อหินใหญ่มาถึงวัดกรุณา และได้ประทับยังอุโบสถแล้วนั้น ท้องฟ้ากลับแจ่มใสฟ้าเปิดขึ้นในทันที  ชาวบ้านต่างรู้สึกปลาบปลื้มและเลื่อมใส ต่างกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อหินด้วยความเคารพและมักสมหวังกันทุกคน โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ แม้กระทั่งน้ำมนต์หน้าองค์หลวงพ่อหิน ก็นำไปดื่มกินทำให้หายจากโรคภัยทั้งปวงจนเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่ว
  ...ครั้นเมื่อมีการสร้างเขื่อนเจ้าพระยาจนเสร็จสิ้น ในปี 2495 วัดกรุณาถูกย้ายไป อยู่ที่อื่น หากแต่ว่า พระอุโบสถอันเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อหินใหญ่นั้น ยังคงตั้งอยู่ที่เดิม ณ.บริเวณเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ทั้งนี้เนื่องจากมีเรื่องเล่าว่าทุกครั้งที่พยายามรื้อถอนวิหารหลวงพ่อหิน เครื่องจักรเครื่องยนต์จะดับใช้งานไม่ได้ จนต้องปล่อยวิหารหลวงพ่อหินไว้ที่เดิม
  ...ในปี 2479 นี้เอง ท่านอธิการเล็ก ท่านได้ทำการจัดสร้างเหรียญหลวงพ่อหินขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้สาธุชนและลูกศิษย์ที่ศรัทธาเลื่อมใสได้มีไว้บูชา ซึ่งการทำพิธีปลุกเสกกันตรงหน้าองค์หลวงพ่อหินใหญ่ ในพะอุโบสถวัดกรุณา โดยได้อาราธนา หลวงพ่อคง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง หลวงพ่อทรัพย์ วัดกำแพง หลวงพ่อหลิน วัดสมอ พระชัยนาทมุนี(หรุ่น) วัดบรมธาตุ หลวงพ่อปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อโม วัดจันทราม เป็นต้น
   ...เหรียญปั้มหลวงพ่อหิน มีลักษณะเป็นเหรียญรูปทรงเสมาหูในตัว พิมพ์ด้านหน้าตรงกลางเป็นรูปจำลอง พระพุทธมหาศิลาหรือหลวงพ่อหินประทับนั่งปางมารวิชัย เหนือฐานบัว 2 ชั้น ยกขอบโดยรอบเป็นลวดลายกระหนกอย่างสวยงาม ส่วนพิมพ์ด้านหลังแบ่งออกเป็น 2 พิมพ์ คือพิมพ์หลังบุ๋ม และพิมพ์หลังอักขระ พิมพ์หลังบุ๋ม ด้านหลังจะบุ๋มลึกลงไปตามรูปองค์พระด้านหน้า ส่วนพิมพ์หลังอักขระนั้น ตรงกลางเป็นอักขระขอมตัว อัง ล้อมรอบด้วย พระคาถา ยะ ธา พุท โม นะ ธา พุท โม นะ ยะ พุท โม นะ ยะ ธา โม นะ ยะ ธา พุท ซึ่งเป็นคาถาพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ด้านบนสุดระบุปีพ.ศ.ที่สร้างคือ ๒๔๗๙
   ...ราคาเช่าหาในปัจจุบัน ตั้งแต่ ๔๐๐๐ บาท - ๒๕๐๐๐ บาท

                            ( เหรียญปั้ม หลวงพ่อหิน วัดกรุณา ชัยนาท ปี ๒๔๗๙ ..๑ )

                          ( เหรียญปั้ม หลวงพ่อหิน วัดกรุณา ชัยนาท ปี ๒๔๗๙ ..๒ )


.....................................................................................................................................

ขอบคุณข้อมูลจาก ::

 -- http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=1144335&storeNo=9287

 -- http://www.dd-pra.com/forum/detail/82729/


 ....................................................................................................................................